หลังจากที่ท่านอุบาสิกาสุภาวดีได้สิ้นชีวิตไปแล้ว ชาวภารตประเทศทั้งที่เป็นวรรณพราหมาณ์ กษัตริย์ แพศย์ ศูทร ซึ่งรู้เกียรติประวัติความขลังความศักดิ์สิทธิ์ในตัวท่าน ประสงค์จะให้ตนเกิดความร่ำรวยด้วยการค้าขาย หรือคิดตั้งตัวเป็นอาจารย์ประสงค์จะได้ลาภจากผู้ที่ประกอบการค้าอีกที ก็ได้หาวัตถุมาทำเป็นรูปของท่านสุภาวดีขึ้นไว้ แล้วทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญวิญญาณและบารมีอานุภาพของท่นสุภาวดีให้มาสถิตอยู่ในรูปปั้นนั้น แล้วนำไปบูชาอธิษฐานให้มีผู้หลั่งไหลมาซื้อสินค้าของตนและได้กำไรร่ำรวย เหมือนอย่างที่บิดามารดาและครอบครัวของนางได้ร่ำรวยการค้ามาแล้ว
การสร้างรูป ตั้งจิตอธิษฐานอัญเชิญวิญญาณพร้อมอานุภาพและบารมีของท่านอุบาสิกาสุภาวดีให้มาสิงสถิตอยู่ในรูปปั้นและรูปเขียนขึ้น(โดยจิตวิญญาณเมื่อจะมาสถิตจะแบ่งอนุภาคมาเอง) จึงได้รับความนิยมนับถือศรัทธาจากประชาชนในครั้งกระโน้นเป็นอันมาก เพราะเมื่อผู้ผลิตหรือผู้ทำพิธีปลุกเสกอัญเชิญจิตวิญญาณและบุญฤทธิ์บารมีของท่านให้มาสถิตในรูปด้วยโองการที่ถูกต้อง และปลุกเสกด้วยบทพระเวทตามตำรา และด้วยอำนาจจิตของผู้ทำพิธีประกอบหรือสหรคตด้วยเมตตาและสมาธิสูงดีแล้ว ปรากฏว่าได้ประสิทธิ์และอำนวยผลให้ผู้นำรูปไปตั้งบูชาไว้ในร้านค้าประสบความสุขมั่งคั่งร่ำรวยสมความปรารถนามามากต่อมากแล้วอย่างน่าอัศจรรย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น